บางทีหลายๆครั้ง ที่เราคุยหรือเมล์ติดต่อกับชาวต่างชาติ ที่ใช้ภาษาอังกฤษเค้าอาจจะพิมพ์คำแปลกๆ มาในเมล์ที่มักเจอกันบ่อยๆก็ เช่น ASAP, BTW, FYI อะไรแบบนี้ครับวันนี้ผมรวบรวมคำย่อต่างๆ มาแปลให้เข้าใจกันครับทีนี้เวลาเราพิมพ์ตอบเค้า เราอาจจะใช้คำพวกนี้บ้าง เพราะก็เท่ห์ดีเหมือนกันครับแต่ก็ควรใช้คำที่ดูแล้วเป็นทางการหน่อยแล้วกันนะครับ:
------------
ASAP = As soon as possible = เร็วสุดเท่าที่เร็วได้
ATM = At the moment = ในตอนนี้
BC = Because = เพราะว่า
BG = Big grin = (ยิ้มอยู่)
BOTOH = But on the other hand = แต่ในทางกลับกัน
BTDT = Been there, done that = ไปมาแล้วทำเรียบร้อยแล้ว
BTW = By the way = อย่างไรก็ตาม
COZ = Because = เพราะว่า
CU = See you = แล้วเจอกัน
CUL or CUL8R = See you later = แล้วเจอกัน
EZ = Easy = ง่าย
FAQ = Frequently asked questions = คำถามที่ถามบ่อย
FYI = For your information = แจ้งเพื่อรับทราบ
GJ = Good job = ทำได้ดีมาก!
GL = Good luck = โชคดีนะ
GRT = Great = เยี่ยม!
GW = Good work = ทำได้ดีมาก
HAND = Have a nice day = โชคดีนะ
IC = I see = เข้าใจล่ะ
IMO = In my opinion ฉันคิดว่า...
IMPOV = In my point of view = ฉันคิดว่า....
IOW = In other words = ถ้าจะพูดอีกอย่างก็..
IRL = In real life = ในชีวิตจริง
JIC = Just in case = เผื่อไว้
JTLYK = Just to let you know = แค่บอกให้รู้ไว้
KIS = Keep it simple = เอาง่ายๆ
KIT = Keep in touch = ติดต่อกันอีกนะ
LOL= Laughing out loud = หัวเราะ555+
NBD = No big deal = ไม่มีปัญหา เรื่องเล็กน้อย
NP = No problem = ไม่มีปัญหา
NVM = Never mind = ไม่เป็นไร
OMG = Oh my god = พระเจ้า จอร์จจจ
PCM = Please call me = โทรมาหาที
PLS = Please = ได้โปรด
PLZ = Please = ได้โปรด
Q = Question = คำถาม
SIT = Stay in touch = แล้วติดต่อกันใหม่
SOZ, SRY = Sorry = ขอโทษที
SYS = See you soon = แล้วพบกันใหม่
THX = Thanks = ขอบใจจ้า
TIA = Thanks in advance = ขอบคุณล่วงหน้า
TY = Thank you = ขอบคุณ
U = You = คุณ
WB = Welcome back = ขอต้อนรับกลับมา
WFM = Works for me = สำหรับฉันแล้วได้ผลนะ
XOXO = Hugs and kisses = รักนะจุ๊บๆ
Y = Why = ทำไมหละ
YW = You are welcome ด้วยความยินดี
หมดเเล้วครับ 555+
วันเสาร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2553
มาทำข้อสอบกันเถอะ!!!
คำชี้เเจง: ให้ผู้ตอบเขียนคำตอบลงในกระดาษเเผ่นอื่นๆก่อนตามข้อเเล้วจึงมาดูเฉลยข้างล่างของบทความนี้
( วิชา ภาษาไทย) จงเลือกข้อที่ไม่เข้าพวก
ก. กบข.เท่งค.เเท่ง
( วิชาวิทยาศาสตร์) จงเลือกข้อที่ไม่เข้าพวก
ก.ข. ค.
( วิชากีฬาและสันทนาการ) จงเลือกข้อที่ไม่เข้าพวก
ก.ข.ค.
( วิชาสังคมศึกษา) จงเลือกข้อที่ไม่เข้าพวก
( วิชาสังคมศึกษา) จงเลือกข้อที่ไม่เข้าพวก
ก.ข.ค.
( วิชาศิลปศึกษา) จงเลือกข้อที่ไม่เข้าพวก
ก.ข.ค.
เฉลย:1.ข้อ ก. เพราะชื่อเล่นของเจ้าของภาพ คือ "กบ" เป็น"คำตาย" ในขณะที่ "แท่ง" และ "เท่ง" ในข้อ ข. และ ค. เป็น"คำเป็น" (คำเป็น คือ คำที่ผสมด้วยสระเสียงยาวในแม่ ก กา หรือมีตัวสะกดอยู่ในแม่กง กน กม เกย เกอว ส่วนคำตาย คือ คำที่ผสมด้วยสระเสียงสั้นในแม่ ก กา หรือมีตัวสะกดอยู่ในแม่กก กบ กด)
2.ข้อ ค. เพราะ "ปู" และ "หอย" เป็นสัตว์น้ำ ส่วนสิงโตเป็นสัตว์บก(-..-")
3.ข้อ ข. เพราะ ข้อ ก.เเละ ข้อ ข. ล้วนเป็นชายจริงหญิงเเท้ทั้งนั้นยกเว้นข้อ ค. (อาเบะ)ซึ่งมีความผิดปกติทางจิตในเรื่องเพศ
4.ข้อ ก. เพราะเป็นท่านเดียวที่ตัดผมรองทรงแบบเด็กมหาลัย ส่วนอีกสองท่านที่เหลือตัดรองหวีสูงแบบเด็กมัธยม
5.ข้อ ค. เพราะ"กระทิงแดง" และ"คาราบาวแดง" มี"แดง" ส่วน "ทักษิณสู้" ไม่มีแดง (จริงๆนะเธอ)
---->ทำได้กี่คะเเนนครับ? 555+
ผลวิจัยชี้ผู้หญิงเก็บความลับได้ไม่เกิน 2 วัน
หนังสือพิมพ์เดลี เทเลกราฟ รายงานผลการวิจัยชิ้นใหม่ล่าสุด พบว่าผู้หญิงโดยเฉลี่ยไม่สามารถเก็บความลับได้ยาวนานเกินกว่า 47 ชั่วโมง
นักวิจัยพบว่าโดยปกติแล้ว ผู้หญิงจะต้องกระจายข่าวให้บุคคลอื่นรู้อย่างน้อย 1 คน ภายในเวลา 47 ชั่วโมง 15 นาที ซึ่งบุคคลแรกที่เธอจะเผยความลับ คือ แฟน สามี เพื่อนสนิท และมารดา การศึกษากับผู้หญิง 3,000 คน อายุระหว่าง 18-65 ปี พบด้วยว่า ร้อยละ 40 ของผู้หญิงกลุ่มนี้ยอมรับว่าไม่สามารถเก็บความลับไว้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวหรือข้อมูลลับสุดยอด และก็พบด้วยว่าเครื่องดื่มมีแอลกอฮอลล์คือเครื่องมือที่จะช่วยให้ผู้หญิงเผย ความลับ ผู้หญิงกว่าร้อยละ 50 ยอมรับว่าดื่มไวน์เพียง 1 หรือ 2 แก้วก็สามารถทำให้คายความลับออกมาได้แล้วไมเคิล คอกซ์ ผู้อำนวยการองค์กรนำเข้าไวน์ชิลี ซึ่งมอบหมายให้ทำการวิจัยนี้เนื่องในวันชาติชิลี บอกว่า ผลวิจัยช่วยเตือนใจว่าอย่าไว้วางใจเพื่อนว่าหากบอกความลับไปแล้วจะไม่รั่ว ไหลไปถึงหูบุคคลที่สาม เรื่องที่ผู้หญิงรู้ความลับแล้วนำมาเปิดเผย มากที่สุด คือ เรื่องเกี่ยวกับคนสนิทและความสัมพันธ์ และเรื่องราคาสินค้าที่แท้จริง ผู้หญิงสามารถนำความลับเหล่านี้ออกมาเผยทั้งในลักษณะของคุยกันซึ่งหน้า คุยกันทางโทรศัพท์หรือส่งเป็นข้อความสั้นเข้าโทรศัพท์มือถือ
แต่โชคดีอย่างหนึ่งคือกว่าร้อยละ 25 ของผู้หญิงที่รู้ความลับ บอกว่า จดจำได้เพียงวันเดียว พอวันรุ่งขึ้นก็ลืมหมดแล้ว
---> อย่างนี้ยังโชคดีเนอะครับ 555+
นักวิจัยพบว่าโดยปกติแล้ว ผู้หญิงจะต้องกระจายข่าวให้บุคคลอื่นรู้อย่างน้อย 1 คน ภายในเวลา 47 ชั่วโมง 15 นาที ซึ่งบุคคลแรกที่เธอจะเผยความลับ คือ แฟน สามี เพื่อนสนิท และมารดา การศึกษากับผู้หญิง 3,000 คน อายุระหว่าง 18-65 ปี พบด้วยว่า ร้อยละ 40 ของผู้หญิงกลุ่มนี้ยอมรับว่าไม่สามารถเก็บความลับไว้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวหรือข้อมูลลับสุดยอด และก็พบด้วยว่าเครื่องดื่มมีแอลกอฮอลล์คือเครื่องมือที่จะช่วยให้ผู้หญิงเผย ความลับ ผู้หญิงกว่าร้อยละ 50 ยอมรับว่าดื่มไวน์เพียง 1 หรือ 2 แก้วก็สามารถทำให้คายความลับออกมาได้แล้วไมเคิล คอกซ์ ผู้อำนวยการองค์กรนำเข้าไวน์ชิลี ซึ่งมอบหมายให้ทำการวิจัยนี้เนื่องในวันชาติชิลี บอกว่า ผลวิจัยช่วยเตือนใจว่าอย่าไว้วางใจเพื่อนว่าหากบอกความลับไปแล้วจะไม่รั่ว ไหลไปถึงหูบุคคลที่สาม เรื่องที่ผู้หญิงรู้ความลับแล้วนำมาเปิดเผย มากที่สุด คือ เรื่องเกี่ยวกับคนสนิทและความสัมพันธ์ และเรื่องราคาสินค้าที่แท้จริง ผู้หญิงสามารถนำความลับเหล่านี้ออกมาเผยทั้งในลักษณะของคุยกันซึ่งหน้า คุยกันทางโทรศัพท์หรือส่งเป็นข้อความสั้นเข้าโทรศัพท์มือถือ
แต่โชคดีอย่างหนึ่งคือกว่าร้อยละ 25 ของผู้หญิงที่รู้ความลับ บอกว่า จดจำได้เพียงวันเดียว พอวันรุ่งขึ้นก็ลืมหมดแล้ว
---> อย่างนี้ยังโชคดีเนอะครับ 555+
วันพฤหัสบดีที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2553
ศัพท์ใหม่ของวัยรุ่นไม่พูดเชย!!!""ฉบับเพิ่มเติม...!!!!
"เหวง" และ "ด้วยความเคารพ"ศัพท์ใหม่เพิ่งฮิตจากโต๊ะเจรจาระหว่าง"ท่านนายกอภิสิทธิ์" กับ 3 แกนนำ "เสื้อแดง"ใครว่าโต๊ะเจรจาระหว่างรัฐบาลกับเสื้อแดงไม่ได้ผล อย่างน้อย ก็มีศัพท์คำหนึ่งเกิดขึ้นมา นั่นคือ "เหวง" และ "ด้วยความเคารพ"แม้การเจรจาระหว่างแกนนำรัฐบาลนำโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กับที่แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) นำโดยนายวีระ มุสิกพงศ์ ทั้ง 2 ครั้งเพื่อหาทางออกให้ประเทศไทยยังไม่บรรลุผลและอาจถึงขั้นล้มโต๊ะเจรจาแต่การเจรจาครั้งนี้ ไม่สูญเปล่าเสียทีเดียว แต่เกิดสิ่งใหม่ขึ้นในมู่วัยรุ่นในโลกไซเบอร์เพราะในการเจรจครั้งนี้ นพ.เหวง โตจิราการ หนึ่งในแกนนำเสื้อแดงที่เข้าร่วมเจรจา พูดจาวกไปวนมา ออกนอกเรื่อง นอกประเด็น "เหวง" จึงกลายเป็นศัพท์ใหม่ที่เกิดขึ้นอยู่ในเฟซบุ๊คและทวิตเตอร์ของใครหลายคนในโลกไซเบอร์ หมายถึง "พูดจาไม่รู้เรื่อง พูดจาวกไปวนมา หรือพูดจาออกนอกเรื่องออกทะเล" ระยะนี้เราจึงได้ยินคำพูดที่ว่า "อย่ามาเหวงกับฉันนะ" หรือ "ไปเหวงไกลๆ" อยู่บ่อยๆ ......
ขณะที่ "เหวง" ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน เป็นคำวิเศษณ์ แปลว่า "มาก" เช่น เบาเหวง หมายความว่า เบามากส่วนในภาษากัมพูชา "เหวง" แปลว่า "หลงทาง" เช่น "ขะยมอัมเหวง" แปลว่า "ดิชั้นหลงทาง" 555+
นอกจากนี้เนื่องจากช่วงเจรจา นพ.เหวง มักจะกล่าวถึงคำว่า "ด้วยความเคารพ" ก่อนที่จะด่าทุกครั้งจนทำให้นายกอปศักดิ์ ถามว่า "เคารพอย่างไร เห็นหลอกด่าทุกคำ""ด้วยความเคารพ" จึงมีความหมายถึง การหลอกด่า เช่น ด้วยความเคารพนะคับ ท่านนี่มัน !!51@$%IJ;XX^&%#@$TF จริงๆแต่ผมเคารพท่านนะคับ แต่ท่านนี่มัน !@$6^XX%$*^()&^x87%$% สุดๆจริงๆ
เพิ่มเติมด้วยความเคารพ เนื่องจากกระแส "เหวง" ได้แพร่ระบาดไปในหมู่วัยรุ่นหนุ่มสาวทั้งเด็กเกรียน เด็กอาเบะ เด็กสยาม และเด็กอื่นอีกมากมายทำให้การพูดคำว่า "เหวง" คำเดียว มันดูสั้นๆห้วนๆ ไม่สุภาพจึงมีข้อสรุปจากโต๊ะเจรจาออกมาว่าให้พูดคำว่า "เหวง" 2 ครั้ง แทน ซึ่งคำว่า "เหวงเหวง" เป็นคำซ้อน ดูน่ารัก คล้าย "ชิวชิว"แต่ห้ามพูดว่า "เหวงเหวงเหวง" เนื่องจาก ตำรวจจะจับเพราะเป็นคำซ้อน 3 และไม่สวมหมวกกันน๊อคโดนปรับหลายบาทอยู่และอาจนำไปผสมกับคำอื่นๆอีก เช่น "ดอกเตอร์เหวงเหวงเลยที่เดียว" เป็นต้นปล.ต้องขออภัยหากเนื้อหาในกระทู้ทำให้บางท่านไม่พอใจมา ณ ที่นี่แต่อย่าเครียด บริโภคข่าวสารแบบขำขำ นะคับบบจึงแจ้งมาเพื่อทราบ
5555555555555555555555555555555555555555555555555+
-------------------------------------------------------------------------------------------------
ขณะที่ "เหวง" ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน เป็นคำวิเศษณ์ แปลว่า "มาก" เช่น เบาเหวง หมายความว่า เบามากส่วนในภาษากัมพูชา "เหวง" แปลว่า "หลงทาง" เช่น "ขะยมอัมเหวง" แปลว่า "ดิชั้นหลงทาง" 555+
นอกจากนี้เนื่องจากช่วงเจรจา นพ.เหวง มักจะกล่าวถึงคำว่า "ด้วยความเคารพ" ก่อนที่จะด่าทุกครั้งจนทำให้นายกอปศักดิ์ ถามว่า "เคารพอย่างไร เห็นหลอกด่าทุกคำ""ด้วยความเคารพ" จึงมีความหมายถึง การหลอกด่า เช่น ด้วยความเคารพนะคับ ท่านนี่มัน !!51@$%IJ;XX^&%#@$TF จริงๆแต่ผมเคารพท่านนะคับ แต่ท่านนี่มัน !@$6^XX%$*^()&^x87%$% สุดๆจริงๆ
เพิ่มเติมด้วยความเคารพ เนื่องจากกระแส "เหวง" ได้แพร่ระบาดไปในหมู่วัยรุ่นหนุ่มสาวทั้งเด็กเกรียน เด็กอาเบะ เด็กสยาม และเด็กอื่นอีกมากมายทำให้การพูดคำว่า "เหวง" คำเดียว มันดูสั้นๆห้วนๆ ไม่สุภาพจึงมีข้อสรุปจากโต๊ะเจรจาออกมาว่าให้พูดคำว่า "เหวง" 2 ครั้ง แทน ซึ่งคำว่า "เหวงเหวง" เป็นคำซ้อน ดูน่ารัก คล้าย "ชิวชิว"แต่ห้ามพูดว่า "เหวงเหวงเหวง" เนื่องจาก ตำรวจจะจับเพราะเป็นคำซ้อน 3 และไม่สวมหมวกกันน๊อคโดนปรับหลายบาทอยู่และอาจนำไปผสมกับคำอื่นๆอีก เช่น "ดอกเตอร์เหวงเหวงเลยที่เดียว" เป็นต้นปล.ต้องขออภัยหากเนื้อหาในกระทู้ทำให้บางท่านไม่พอใจมา ณ ที่นี่แต่อย่าเครียด บริโภคข่าวสารแบบขำขำ นะคับบบจึงแจ้งมาเพื่อทราบ
5555555555555555555555555555555555555555555555555+
-------------------------------------------------------------------------------------------------
วันพุธที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2553
50 ความจริงของรร.ชายล้วน 555+ (จากการสำรวจของเรา)
ในสายตาของคนภายนอก โรงเรียนชายล้วนเป็นยังไง?โดยเฉพาะพวกสาววาย พวกคุณคิดว่าจะมีฉากยาโอยสดให้ชมกันทุกวันสินะเป็นแหล่งรวมเด็กน้อยหัวเกรียนน่ารัก หนุ่มแว่นโชตะ หนุ่มเมะสุดเท่ หนุ่มเคะสุดหวานหรือคิดว่ามันคือ สมรภูมิแห่งความดิบเถื่อน?50 ข้อต่อไปนี้อาจเปลี่ยนความคิดคุณ:
1. โรงเรียนชายล้วนปกครองด้วยระบอบ "รุ่นพี่ปกครองรุ่นน้อง"
2. ผู้หญิงคือ "แรร์ไอเทม"
3. ใครมีแฟนคือคนทรยศ
4. คนทรยศต้องโดนประจาน ป่าวประกาศล้อเลียนไปเจ็ดวันสิบวัน
5. ดึงกางเกงพละเป็นเรื่องปกติ ใครไม่เคยโดนนี่สิแปลก แต่ใครดึงบ่อยๆ จะถูกด่าว่าเป็นเกย์
6. 20% ของนักเรียนจะเป็นพวกเบี่ยงเบนทางเพศ
7. พวกเบี่ยงเบนทางเพศแบ่งได้สองประเภทคือ "ตุ๊ด" และ "เกย์"
8. ตุ๊ดจะแสดงออกถึงความอยากเป็นผู้หญิง แต่งหน้า ทาปาก ฉีดน้ำหอม นั่งเม้าท์กันเป็นกลุ่ม
9. เกย์จะไม่แสดงออกอะไรเลยว่าเบี่ยงเบน บางคนกว่าจะรู้ตัวว่าเพื่อนเป็นเกย์ก็สายไปเสียแล้ว
10. กีฬาโปรดของชายแท้คือฟุตบอลและบาสเก็ตบอล
11. กีฬาโปรดของตุ๊ดคือวอลเล่ย์บอล (แต่มาแย่งสนามของบอลและบาสเล่น)
12. การวาดเขียนบนกำแพงคือการแสดงอำนาจ (แม้มันจะดูไร้สาระ)
13. โรงเรียนชายล้วนลงโทษด้วยวิธีการฟาดด้วยไม้เรียว
14. แต่ยิ่งโตขึ้นเด็กจะมีภูมิต้านทานไม้เรียว ตีไปแม้จะเจ็บแต่ไม่นานก็หาย ครูจึงเปลี่ยนมาใช้วิธีหักคะแนนแทน
15. ในห้องเรียนจะแบ่งเป็นกลุ่มหน้าห้อง กลางห้อง และหลังห้อง
16. กลุ่มหน้าห้องรับหน้าที่ตั้งใจเรียน คอยยกมือถามเบี่ยงเบนความสนใจครู
17. กลุ่มกลางห้องถ้าไม่อ่านการ์ตูนหรือเล่นเกมก็หลับ
18. กลุ่มหลังห้องจะโดด
19. ตุ๊ดจะมีโลกส่วนตัวของพวกเขา ไม่มาระรานชายแท้เท่าไหร่
20. ห้องน้ำคือห้องสูบบุหรี่
21. ต่อยกันเป็นเรื่องปกติ
22. เรียกชื่อพ่อเป็นเรื่องธรรมชาติ
23. เราไม่ค่อยแกล้งอาจารย์ แต่จะตั้งฉายาให้อาจารย์ที่ถูกใจลับหลัง
24. การแกล้งอาจารย์ที่ทำกันคือเจาะยางรถหรือขูดขีดรถของอาจารย์คนนั้น
25. ตุ๊ดมักจะตีซี้อาจารย์เก่ง
26. โดนเฉพาะอาจารย์นิสิตฝึกสอน
27. ตุ๊ดและเกย์ส่วนใหญ่จะเรียนเก่ง
28. ดูคลิปโป๊กันเป็นเรื่องปกติ แต่อย่าให้อาจารย์ผู้หญิงเห็น
29. เล่นไพ่หลังห้องเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าอาจารย์จับได้ พักการเรียนลูกเดียว
30. แม้ดูภายนอกเราจะดิบเถื่อน แต่เรารักสถาบันมาก (แต่มีบ้างที่รักแบบผิดวิธี)
31. ใครหยามเรา ต้องเล่นให้หนัก
32. ยกพวกตีกันระหว่างสถาบันมีให้เห็นบ่อยๆ
33. ถ้าไม่เก๋าจริง อย่าไปเหยียบถิ่นศัตรูด้วยชุดนักเรียน
34. แต่พอจบออกมาแล้ว คู่อริก็กลายเป็นเพื่อนรักได้
35. เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้หญิง เราแบ่งเป็นสามประเภท
36. หนึ่ง ขี้อาย ไม่กล้าคุยกับผู้หญิง เทคแคร์ผู้หญิงมาก และมักโดนผู้หญิงหลอก
37. สอง คุยกับผู้หญิงได้ตามปกติเหมือนคุยกับผู้ชาย แต่ระวังคำพูดคำจาให้มากขึ้น
38. สาม หื่น
39. หัวเกรียนคือความอัปยศ (แต่บางคนก็ไม่คิดอะไร)
40. วันตัดผมคือวันโลกแตก
41. เราจะหลีกหนีด้วยทุกสิ่งที่เรามี! ทะลวงมันให้ทะลุ! อย่างไม่หยุดยั้ง!
42. ขึ้นม.ปลายก็ไม่ใช่ว่าจะรอด เพราะมีรด.รออยู่ หัวเกรียนอยู่ดี
43. การทักทายแบบเพื่อนคือการตบเกรียน
44. บางทีการด่าว่าเกรียนคือคำชม
45. อยากเท่ต้องถือกระเป๋าจาคอป
46. จาคอปห้ามใส่หนังสือ ต้องทำให้มันแบนที่สุดถึงจะเท่
47. หนังสือใส่ถุงหิ้วมาต่างหาก
48. แฟชั่นแปลกๆ คือการสวมกางเกงขาสั้นๆ เอาให้เหนือเข่าเป็นคืบยิ่งดี (เอาไว้ล่อตุ๊ดเหรอวะ?) แน่นอนมันผิดระเบียบ
49. เจาะหูก็เป็นแฟชั่นอย่างหนึ่ง แต่ก็ผิดระเบียบเหมือนกัน
50. สิ่งที่สำคัญที่สุด เราจะหน้าด้านขึ้นเมื่อเติบโตขึ้น
เราว่าทั้งหมดนี้จริงเกือบ100%ครับ 555+
ซ้ำขออภัยครับ หุหุ
1. โรงเรียนชายล้วนปกครองด้วยระบอบ "รุ่นพี่ปกครองรุ่นน้อง"
2. ผู้หญิงคือ "แรร์ไอเทม"
3. ใครมีแฟนคือคนทรยศ
4. คนทรยศต้องโดนประจาน ป่าวประกาศล้อเลียนไปเจ็ดวันสิบวัน
5. ดึงกางเกงพละเป็นเรื่องปกติ ใครไม่เคยโดนนี่สิแปลก แต่ใครดึงบ่อยๆ จะถูกด่าว่าเป็นเกย์
6. 20% ของนักเรียนจะเป็นพวกเบี่ยงเบนทางเพศ
7. พวกเบี่ยงเบนทางเพศแบ่งได้สองประเภทคือ "ตุ๊ด" และ "เกย์"
8. ตุ๊ดจะแสดงออกถึงความอยากเป็นผู้หญิง แต่งหน้า ทาปาก ฉีดน้ำหอม นั่งเม้าท์กันเป็นกลุ่ม
9. เกย์จะไม่แสดงออกอะไรเลยว่าเบี่ยงเบน บางคนกว่าจะรู้ตัวว่าเพื่อนเป็นเกย์ก็สายไปเสียแล้ว
10. กีฬาโปรดของชายแท้คือฟุตบอลและบาสเก็ตบอล
11. กีฬาโปรดของตุ๊ดคือวอลเล่ย์บอล (แต่มาแย่งสนามของบอลและบาสเล่น)
12. การวาดเขียนบนกำแพงคือการแสดงอำนาจ (แม้มันจะดูไร้สาระ)
13. โรงเรียนชายล้วนลงโทษด้วยวิธีการฟาดด้วยไม้เรียว
14. แต่ยิ่งโตขึ้นเด็กจะมีภูมิต้านทานไม้เรียว ตีไปแม้จะเจ็บแต่ไม่นานก็หาย ครูจึงเปลี่ยนมาใช้วิธีหักคะแนนแทน
15. ในห้องเรียนจะแบ่งเป็นกลุ่มหน้าห้อง กลางห้อง และหลังห้อง
16. กลุ่มหน้าห้องรับหน้าที่ตั้งใจเรียน คอยยกมือถามเบี่ยงเบนความสนใจครู
17. กลุ่มกลางห้องถ้าไม่อ่านการ์ตูนหรือเล่นเกมก็หลับ
18. กลุ่มหลังห้องจะโดด
19. ตุ๊ดจะมีโลกส่วนตัวของพวกเขา ไม่มาระรานชายแท้เท่าไหร่
20. ห้องน้ำคือห้องสูบบุหรี่
21. ต่อยกันเป็นเรื่องปกติ
22. เรียกชื่อพ่อเป็นเรื่องธรรมชาติ
23. เราไม่ค่อยแกล้งอาจารย์ แต่จะตั้งฉายาให้อาจารย์ที่ถูกใจลับหลัง
24. การแกล้งอาจารย์ที่ทำกันคือเจาะยางรถหรือขูดขีดรถของอาจารย์คนนั้น
25. ตุ๊ดมักจะตีซี้อาจารย์เก่ง
26. โดนเฉพาะอาจารย์นิสิตฝึกสอน
27. ตุ๊ดและเกย์ส่วนใหญ่จะเรียนเก่ง
28. ดูคลิปโป๊กันเป็นเรื่องปกติ แต่อย่าให้อาจารย์ผู้หญิงเห็น
29. เล่นไพ่หลังห้องเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าอาจารย์จับได้ พักการเรียนลูกเดียว
30. แม้ดูภายนอกเราจะดิบเถื่อน แต่เรารักสถาบันมาก (แต่มีบ้างที่รักแบบผิดวิธี)
31. ใครหยามเรา ต้องเล่นให้หนัก
32. ยกพวกตีกันระหว่างสถาบันมีให้เห็นบ่อยๆ
33. ถ้าไม่เก๋าจริง อย่าไปเหยียบถิ่นศัตรูด้วยชุดนักเรียน
34. แต่พอจบออกมาแล้ว คู่อริก็กลายเป็นเพื่อนรักได้
35. เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้หญิง เราแบ่งเป็นสามประเภท
36. หนึ่ง ขี้อาย ไม่กล้าคุยกับผู้หญิง เทคแคร์ผู้หญิงมาก และมักโดนผู้หญิงหลอก
37. สอง คุยกับผู้หญิงได้ตามปกติเหมือนคุยกับผู้ชาย แต่ระวังคำพูดคำจาให้มากขึ้น
38. สาม หื่น
39. หัวเกรียนคือความอัปยศ (แต่บางคนก็ไม่คิดอะไร)
40. วันตัดผมคือวันโลกแตก
41. เราจะหลีกหนีด้วยทุกสิ่งที่เรามี! ทะลวงมันให้ทะลุ! อย่างไม่หยุดยั้ง!
42. ขึ้นม.ปลายก็ไม่ใช่ว่าจะรอด เพราะมีรด.รออยู่ หัวเกรียนอยู่ดี
43. การทักทายแบบเพื่อนคือการตบเกรียน
44. บางทีการด่าว่าเกรียนคือคำชม
45. อยากเท่ต้องถือกระเป๋าจาคอป
46. จาคอปห้ามใส่หนังสือ ต้องทำให้มันแบนที่สุดถึงจะเท่
47. หนังสือใส่ถุงหิ้วมาต่างหาก
48. แฟชั่นแปลกๆ คือการสวมกางเกงขาสั้นๆ เอาให้เหนือเข่าเป็นคืบยิ่งดี (เอาไว้ล่อตุ๊ดเหรอวะ?) แน่นอนมันผิดระเบียบ
49. เจาะหูก็เป็นแฟชั่นอย่างหนึ่ง แต่ก็ผิดระเบียบเหมือนกัน
50. สิ่งที่สำคัญที่สุด เราจะหน้าด้านขึ้นเมื่อเติบโตขึ้น
เราว่าทั้งหมดนี้จริงเกือบ100%ครับ 555+
ซ้ำขออภัยครับ หุหุ
วันสุดท้ายของเดือน มีนาคม
เบื่อใช้ได้เลยว่ะ...ไม่ได้เจอเพื่อนมา 2 เดือนได้ละ...เบื่อๆๆๆๆๆๆๆ
ก็เลยเอาการ์ตูนมาให้อ่าน 555+ เรื่อง lock on อ่ะนะ... ตอนที่ 1 ล่ะกาน
เอาหน้าปกมาเรียกน้ำย่อยก่อน 555+
ก็ประมาณนี้ล่ะ...จะเอาตัวการ์ตูนมาลงเย็นนี้หุหุ
ป้ายกำกับ:
physen 1 last day of month diary delasol
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)